การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows และโปรแกรมประยุกต์
หลังจากที่จัดเตรียมฮาร์ดดิสก์ในการติดตั้งเครื่องใหม่ หรือฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์เดิมที่ระบบเกิดความเสียหายแล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนการติดตั้งระบบปฏิบัติการ ลงบนเครื่อง ระบบปฏิบัติการจะเป็นเหมือนส่วน ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดภายในเครื่อง เป็นตัวกลางระหว่างโปรแกรมใช้งานต่าง ๆ กับ อุปกรณ์บนเครื่อง โดยในบทนี้จะกล่าวถึงการติดตั้งของระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ที่ได้รับความนิยมอย่าง Windows XP และ Windows Vista |
|
1. ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP |
Windows XP เป็นระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ ถูก ออกแบบให้มีสีสัน อินเทอร์เฟสที่ดูสดใส ซึ่งมีอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน คือ Windows XP Home Edition สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป Windows XP Professional สำหรับการใช้งานในระดับสูง และงานด้านเครือข่าย และ Windows XP Tablet PC Edition ที่ทำงานอยู่บนเครื่อง Tablet PC | |
|
|
Windows XP ได้พัฒนาระบบการติดตั้งที่ง่ายขึ้น มาพร้อมตัวช่วยต่างๆ ที่ทำให้การติตดั้งทำได้สะดวกกว่ารุ่นก่อน ๆ มาก เช่น มีตัวเลือกให้เราฟอร์แมตพาร์ ทิชั่นบนฮาร์ดดิสก์ก่อนติดตั้ง รวมทั้งสามารถเลือกระบบจัดเก็บไฟล์ที่ใช้กับพาร์ทิชั่นที่จะติดตั้ง Windows XP ได้อีกด้วย (สามารถเลือกได้ทั้งระบบ FAT32 หรือ NTFS ที่ใช้กับ Windows 2000/NT ได้)
|
|
1.1 ความต้องการของระบบสำหรับติดตั้ง Windows XP |
สำหรับการทำงานขั้นพื้นฐาน คอมพิวเตอร์ที่ใช้ติตตั้ง Windows XP จะต้องมีคุณสมบัติอย่างน้อย ดังนี้ |
|
| ส่วนประกอบ | | รายละเอียดขั้นต่ำ |
| ซีพียู | | ความเร็ว 300MHz ขึ้นไป (แต่หากต้องการประสิทธิภาพในการทำงาน ที่สูงขึ้นควรใช้ความเร็ว 600 MHz ขึ้นไป) |
| | | |
| หน่วยความจำ | | ขนาด 128 MB ขึ้นไป |
| | | |
| ฮาร์ดดิสก์ | | พื้นที่ว่าง 1.5 GB ขึ้นไป |
| | | |
| จอแสดงผล | | VGA หรือ Super VGA ความละเอียด 800 X 600 หรือสูงกว่า |
| | | |
| อุปกรณ์อื่น ๆ | | ไดรว์ CD-ROM/RW/DVD, ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์, การ์ดเครือข่าย และโม เด็ม |
|
|
1.2 ขั้นตอนการติดตั้ง Windows XP |
ในการติตตั้ง Windows XP ลงบนเครื่องใหม่ที่ยังไม่มีการติดตั้งระบบปฏิบัติการลงไป หรือหลังเราฟอร์แมตเครื่องแล้ว สามารถทำได้โดยให้เครื่องบู๊ตจาก แผ่นซีดีติตตั้ง Windows XP และเข้าสู่การติดตั้ง Windows ต่อไป ดังนี้ |
|
1. ใส่แผ่นซีดีติดตั้ง Windows XP ในเครื่อง จากนั้นเครื่องจะบู๊ตจากแผ่นติดตั้งนี้ ซึ่งจำเข้าสู่หน้าจอเมนู Windows XP Setup ให้กด <Enter> เพื่อเลือก เริ่มต้นการติดตั้ง Windows XP
|
|
|
|
2. จะเข้าสู่หน้าต่างข้อตกลงในการติดตั้ง (Windows XP Licensing Agreement) ให้กด <F8> เพื่อเลือกตกลง และเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป |
|
|
|
3. หน้าจอถัดมา จะแสดงพาร์ทิชั่นพร้อมขนาดของพาร์ทิชั่นทั้งหมดที่มีอยู่บนเครื่องของเรา ให้เลือกพาร์ทิชั่นที่ต้องการติดตั้ง Windows XP และกด <Enter>
|
|
|
|
4. จากพาร์ทิชั่นที่เลือก โปรแกรมติดตั้งจะให้เลือกจัดการกับพาร์ทิชั่น ดังนี้ |
|
|
|
- เลือก Format พาร์ทิชั่นและแปลงระบบจัดเก็บไฟล์เป็น NTFS (Format อย่างเร็ว)
- เลือก Format พาร์ทิชั่นและแปลงระบบจัดเก็บไฟล์เป็น FAT32 (Format อย่างเร็ว)
- เลือก Format พาร์ทิชั่นและแปลงระบบจัดเก็บไฟล์ให้เป็นแบบ NTFS
- เลือก Format พาร์ทิชั่นและแปลงระบบจัดเก็บไฟล์ให้เป็นแบบ FAT32
- เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเก็บข้อมูลบนพาร์ทิชั่นเป็นแบบ NTFS
- ให้ทำการคงระบบเดิมไว้ โดยไม่ต้องฟอร์แมตและเปลี่ยนแปลงระบบไฟล์
|
ในที่นี้ทำการเลือกให้ฟอร์แมตพาร์ทิชั่นที่เลือก และเปลี่ยนแปลงระบบไฟล์เป็นแบบ NTFS จากนั้นให้กด <Enter> จากนั้นโปรแกรมติดตั้งจะคัดลอกไฟล์ที่ จำเป็นลงในเครื่อง และทำการรีสตาร์ทเครื่องเพื่อเข้าสู่การติดตั้ง Windows XP |
|
5. โปรแกรมติตดั้งจะสอบถามเราถึงสถานที่ (ประเทศ) และภาษาสำหรับติดตั้งลงใน Windows XP ในส่วนนี้ข้ามไปได้ โดยคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
6. จากนั้นโปรแกรมติดตั้งจะให้เราใส่ชื่อผู้ใช้และหน่วยงาน และระบุ Product Key ของ Windows XP และคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
7. กำหนดวันและเวลาที่กรอบ Date & Time และกำหนดช่วงเวลาของภูมิภาคที่เราอยู่ กำหนด Time Zone จากนั้นคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
8. โปรแกรมจะให้เรากำหนดการติดตั้งการทำงานบนระบบเครือข่าย (Network Settings) โดยมีตัวเลือกดังต่อไปนี้ |
|
|
|
| ตัวเลือก | | คำอธิบาย |
| Typical settings : | | กำหนดให้มีการติดตั้งระบบเครือข่ายแบบปกติ โดยจะมีการติดตั้งการเชื่อม ต่อให้กับเครื่องของเราเป็นเครื่องลูกข่าย ให้สามารถกำหนดไฟล์เพื่อใช้งาน ร่วมกันในเครือข่าย พร้อมติตดั้งโปรโตคอล TPC/IP ให้โดยอัตโนมัติ |
| | | |
| Custom settings : | | เลือกกำหนดส่วนการติดตั้งระบบเครือข่ายด้วยตนเอง เลือกการติดตั้งระบบ เครือข่ายแบบ Typical settings แล้วคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
9. เมื่อทำการติดตั้งโปรแกรมเสร็จสมบูรณ์แล้ว โปรแกรมติดตั้งจะรีสตาร์ท และเริ่มต้นระบบขึ้นใหม่ หน้าจอแรกที่ปรากฏขึ้นคือหน้าต่างยินดีต้อนรับสู่ Microsoft Windows ให้เราคลิกเมาส์ที่ปุ่ม Next
|
|
|
|
10. จากนั้นเป็นการลงทะเบียนกับไมโครซอฟท์ และการกำหนดผู้ใช้ที่สามารถเข้าใช้ Windows XP โดยกำหนดเป็น User Account เพื่อใช้ล็อกออนเข้า สู่การใช้งาน Windows ในช่อง Your name, 2nd User, 3rd User, ... ตามลำดับ |
|
|
|
จากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอล็อกออนเข้าใช้งาน Windows XP เราสามารถคลิกเมาส์เลือกชื่อ User Account เพื่อเข้าสู่ Windows XP ได้ทันที (User Account เหล่านี้ เราสามารถเพิ่มและปรับแต่งได้ในภายหลัง) |
|
2. ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows Vista |
สำหรับ Windows Vista แต่ละรุ่นนั้น ต้องการสเป็คเครื่องที่แตกต่างกันไป ซึ่งสเป็คเครื่องดังกล่าวนี้ถือเป็นความต้องการขั้นต่ำ เพื่อใช้ Windows Vista ได้อย่างราบรื่น โดยสเป็คเครื่องจะเน้นไปที่ระบบแสดงผลของเครื่อง และพื้นที่ว่างที่มากถึง 15 GB ดังรายละเอียดต่อไปนี้ |
|
2.1 ความต้องการของระบบสำหรับติดตั้ง Windows Vista |
แบ่งสเป็คเครื่องติดตั้ง Windows Vista ออกเป็น 2 ระดับ คือ สเป็คเครื่องแบบ Capable PC และ Premium Ready PC ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ |
|
| สเป็คเครื่องแบบ | | หน้าที่การทำงาน |
| Capable PC | | เป็นสเป็คเครื่องขั้นต่ำที่ขอให้รัน Windows Vista ได้ก็พอ โดยสเป็คเครื่องระดับนี้สามารถใช้ติดตั้ง Windows Vista ได้ แต่ไม่รองรับส่วนการแสดงผล 3 มิติที่เรียกว่า Aero ปัจจุบันผู้ผลิตและจำหน่าย เครื่องคอมพิวเตอร์ จะมีโลโก้ Windows Vista Capable ที่แสดงว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้สามารถรัน Windows Vista ได้ |
| | | |
| Premium PC | | เพื่อการใช้งาน Windows Vista ได้อย่างเต็มทุกความสามารถ โดยเฉพาะการใช้การแสดงผลแบบ Windows Aero เช่น การดูภาพตัวอย่างของไฟล์แบบ Real-time การเลือกสลับการทำงานของหน้า ต่างแบบ 3 มิติ การปรับขนาดแบบสเกล การแสดงผลของหน้าต่างแบบโปร่งใส เป็นต้น |
| | | |
|
|
สำหรับรายละเอียดสเป็คเครื่องระหว่าง Capable PC และ Premium Ready PC มีดังนี้ |
|
| | | Windows Vista Capable PC | | Windows Vista Premium PC |
| หน่วยประมวลผล (ซีพียู) | | ความเร็ว 800 MHz ขึ้นไป | | ความเร็ว 1 GHz ขึ้นไป (แบบ 32 บิต หรือแบบ 64 บิต) |
| | | | | |
| หน่วยความจำ | | 512 MB ขึ้้นไป | | 1 GB ขึ้นไป |
| | | | | |
| ระบบแสดงผล | | รองรับ DirectX9 | | เพื่อการแสดงผล Windows Aero ควรรองรับ
- DirectX 9
- WDDM Driver
- Pixel Shader 2.0
- 32 บิต/พิกเซล
|
| | | | | |
| แรมบนการ์ดแสดงผล | | - | | 128 MB |
| | | | | |
| ฮาร์ดดิสก์ | | 40 GB และมีพื้นที่ว่าง 15 GB | | 40 GB และมีพื้นที่ว่าง 15 GB |
| | | | | |
| อื่น ๆ | | ไดรว์ดีวีดี/อินเทอร์เน็ต | | ไดรว์ดีวีดี/อินเทอร์เน็ต |
| | | | | |
|
|
2.2 ขั้นตอนการติดตั้ง Windows Vista |
Windows Vista มีขั้นตอนการติดตั้งที่ไม่ซับซ้อน เพียงแต่อาจใช้เวลานานสักหน่อย ในตัวอย่างนี้เป็นการติดตั้งแบบลงใหม่หมด (Clean install) ลงบน เครื่องที่ยังไม่มีการติดตั้งระบบปฏิบัิติการใด ๆ ซึ่งตัว Windows Vista จะมีการฟอร์แมต และจัดการระบบไฟล์ให้เราอัตโนมัติด้วย เมื่อเราเตรียมแผ่นติดตั้ง Windows Vista พร้อมแล้ว ให้บู๊ตเครื่องจากแผ่นนี้ ซึ่งระบบจะรันโปรแกรมติดตั้งขึ้นมาอัตโนมัติ |
|
|
|
1. โปรแกรมติดตั้ง Windows Vista จะถูกรันขึ้นมา ให้เรากำหนดภาษาที่ใช้สำหรับการติดตั้งดังนี้ Language to install : ระบุภาษาที่ใช้สำหรับหน้าต่างติดตั้งโปรแกรม Time and currency format : ระบุมาตรฐานวัน/เวลาและสกุลเงินที่ใช้ Keyboard or input method : ระบุภาษาหลักที่ใช้บนคีย์บอร์ด |
จากนั้นคลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป |
|
|
|
2. คลิกเมาส์ที่ปุ่ม Install Now เพื่อเริ่มต้นเข้าสู่การติดตั้ง |
|
3. ระบุหมายเลขรหัสสินค้า (Product Key) ของ Windows Vista เพื่อสามารถติดตั้งต่อไปได้ (Windows Vista มีระบบ Activation สำหรับตรวจสอบ ความเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ภายหลังจากติดตั้งและเริ่มใช้งานระบบด้วย) จากนั้นให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป |
|
|
|
4. หน้าต่างถัดไปเป็นข้อตกลงในการใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows Vista พร้อมทั้งบอกรายละเอียดเวอร์ชั่นของ Windows Vista ให้ทราบ ให้เรา เลือก I accept the license terms เพื่อยอมรับ และคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
5. เลือกรูปแบบการติดตั้ง Windows Vista ลงบนเครื่อง ว่าเป็นการติดตั้งแบบใด โดยมีตัวเลือกดังนี้ |
Upgrade : ติดตั้ง Windows Vista แบบอัพเดต ใช้ในกรณีที่เราติดตั้งและใช้งาน Windows เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้บนเครื่อง โดยระบบจะเก็บไฟล์ข้อมูล โปรแกรมและค่าการเซตระบบไว้คงเดิม Custom : เลือกกำหนดการติดตั้งด้วยตนเอง โดยโปรแกรมจะให้เรากำหนดไดรว์สำหรับติดตั้งต่อไป ในที่นี้เราเลือกการติดตั้งแบบ Custom |
|
|
|
6. เลือกไดรว์สำหรับติดตั้ง Windows Vista ซึ่งต้องมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 15 GB และคลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปจากนั้นโปรแกรม ติดตั้งจะทำการคัดลอกไฟล์ที่จำเป็นลงบนเครื่อง และเริ่มต้นติดตั้ง Windows Vista ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลานานพอสมควร |
|
|
|
7. หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว จะเข้าสู่หน้าต่าง Choose a user name and picture ให้เราระบุค่าต่าง ๆ ดังนี้ |
หัวข้อ Type a user name : ระบุชื่อผุ้ใช้ หัวข้อ Type a password : ระบุรหัสผ่านสำหรับชื่อนี้ หัวข้อ Choose a picture... : เลือกรูปภาพประจำตัว และคลิกเมาส์ที่ปุ่ม
|
|
|
|
8. หน้าต่างถัดมาเป็นการระบุชื่อให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ สำหรับใช้งานในเครือข่าย โดยตั้งชื่อที่ช่อง Type a computer name รูปด้านล่างเป็นการเลือก ภาพเริ่มต้นที่จะใช้เป็นพื้นหลังของเดสก์ท็อปใน Windows Vista หลังเลือกภาพแล้ว ให้เราคลิกเมาส์ที่ปุ่ม เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป |
|
|
|
9. เลือกรูปแบบการอัพเดต Windows Vista (หลังจากติดตั้งจะมีการอัพเดตเสมอ ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเราสามารถเลือก กำหนดรูปแบบการอัพเดต ได้ก่อนในส่วนนี้) โดยมีตัวเลือกต่าง ๆ ดังนี้ |
Use recommended settings : เลือกกำหนดค่ามาตรฐานที่ระบบกำหนดไว้ให้เกี่ยวกับการอัพเดต Windows Install important updates only : เลือกอัพเดตเฉพาะส่วนที่สำคัญ หรือปัญหาที่ต้องแก้ไขจริง ๆ เท่านั้น (Critical updates) Ask me later : ก่อนอัพเดต ให้มีหน้าต่างถามก่อนทุกครั้งว่าต้องการอัพเดตหรือไม่
|
|
ในที่นี้เราเลือกกำหนดตามมาตรฐานที่ระบบกำหนดไว้เบื้องต้น |
|
|
|
10. หน้าต่างถัดมาเป็นการกำหนดไทม์โซน (Timezone) และระบุค่าวัน/เวลา (Date) ให้กับระบบ จากนั้นคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
11. คลิกเมาส์ปุ่ม ก็เป็นอันจบขั้นตอนการติดตั้ง และกำหนดค่าเบื้องต้นให้กับ Windows Vista |
|
ระบบจะทำการรีสตาร์ทเครื่อง และเมื่อเข้ามาอีกครั้ง หากเครื่องของเราเชื่อมต่ออยู่กับระบบเครือข่าย Windows Vista จะค้นหาเครือข่าย และเราสามารถ ทำงานด้วยได้ทันที จากนั้นจึงเข้าสู่การทำงานบน Windows Vista เป็นครั้งแรก (พร้อมด้วยแบ็คกราวด์ที่เรากำหนดในขั้นตอนติดตั้ง) โดยปรากฏหน้าต่าง Welcome Center ที่เราเลือกกำหนดค่าการใช้งานต่าง ๆ ในเบื้องต้นได้ |
|
3. การติดตั้งโปรแกรมใหม่ใน Windows |
บนระบบปฏิบัติการ Windows นั้นจะมีโปรแกรมพื้นฐานบางส่วนให้เราสามารถเลือกใช้งานได้ทันที เช่น โปรแกรม Paint, Wordpadหรือโปรแกรมสำหรับ ดูหนังฟังเพลงอย่าง Windows Media Player เป็นต้น |
หากเราต้องการใช้งานโปรแกรมอื่นๆ ที่นอกเหนือจากนี้ เช่น Microsoft Office, Photoshop หรือ WinAmp เราสามารถนำโปรแกรมเหล่านี้มาติดตั้งลงใน เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้เอง โดยปกติโปรแกรมแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ จะอยู่ในรูปของ CD-ROM ซึ่งต้องทำการติดตั้งในเครื่องของเราก่อนจึงจะใช้งานได้ |
|
3.1 ประเภทของโปรแกรมแอพพลิเคชั่น |
การแบ่งโปรแกรมจกาหัวข้อที่ผ่านมา เป็นการแบ่งออกตามจุดประสงค์ของการใช้งาน แต่หากเราแบ่งประเภทโปรแกรมตามรูปแบบการเสียค่าใช้จ่ายเพื่อ จะได้โปรแกรมนั้น ๆ มาใช้งาน จะแบ่งออกได้ดังนี้ |
|
1) โปรแกรมประเภทลิขสิทธิ์ |
โปรแกรมลิขสิทธิ์ (Copyright) นี้อาจพูดง่าย ๆ ว่า เป็นโปรแกรมที่ต้องซื้อมาใช้งานนั่นเอง โปรแกรมประเภทนี้มัมีประสิทธิภาพสูง และมีเสถียรภาพในการ ใช้งานตามที่เราต้องการแทบทุกอย่าง เพราะจัดทำขึ้นจากทีมงานของผู้ผลิตอย่างดี และมีการแข่งขันกันสูง ตัวอย่างสำหรับโปรแกรมประเภทนี้ เช่น Microsoft Office, Adobe Photoshop, Macromedia Flash เป็นต้น |
|
2) โปรแกรมประเภทฟรีแวร์ (Freeware) |
โปรแกรมประเภทนี้ เป็นโปรแกรมที่เราสามารถหามาติดตั้งใช้งานได้ฟรี ส่วนใหญ่จะมาจากการดาวน์โหลดฟรีจากเว็บไซต์ที่ให้บริการทางด้านนี้ โปรแกรม ฟรีแวร์ส่วนใหญ่ จามาจากผู้ผลิตที่เขียนโปรแกรมมาเพื่อใช้งานเฉพาะด้านเจาะจง และนำออกมาให้ผู้อื่นได้ลองใช้ร่วมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ นี่คือข้อดีของ โปรแกรมประเภทนี้ |
|
3) โปรแกรมประเภทแชร์แวร์ (Shareware) |
โปรแกรมประเภทนี้อาจกล่าวได้ว่า อยู่กึ่งกลางระหว่างโปแกรมที่แจกจ่ายให้ใช้งานได้ฟรี และที่ต้องซื้อมาใช้งานจริงด้วย เพราะโปรแกรมจะให้เราสามารถ นำไปติตดั้งเพื่อทดลองใช้งานได้ก่อน และกำหนดระยะเวลาที่เราสามารถเข้าใช้งานได้ หรืออาจทำงานได้เพียงบางฟังก์ชั่นเท่านั้น ถ้าอยากใช้โดยไม่จำกัดระยะ เวลาการใช้งานก็ต้องจ่ายเพื่อนำเวอร์ชั่นจริงมาใช้งานต่อไป |
|
3.2 ตัวอย่างการติดตั้งโปรแกรม |
การติดตั้งโปรแกรม จะมีขั้นตอนที่คล้ายกัน ดังนั้นจึงขอยกตัวอย่างเพียง 1 ตัวอย่าง คือ การติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office 2003 ส่วนสำคัญที่เราต้อง ทราบก็คือ รหัสสำหรับการติดตั้งโปรแกรมนั้น หรือเรียกกันว่า Serial Number หรือ Product Key ซึ่งหากเราซื้อมาอย่างถูกลิขสิทธิ์ รหัสเหล่านี้จะปรากฏอยู่บน กล่องสินค้าอยู่แล้ว |
ก่อนอื่นให้เราปิดโปรแกรมทั้งหมดที่เปิดอยู่ ใส่แผ่นติดตั้ง Office 2003 ในไดรว์ซีดี โปรแกรมติดตั้งจะทำงานโดยอัตโนมัติ และเริ่มขั้นตอนการติดตั้งโปร แกรมดังนี้ |
|
|
|
1. จากหน้าต่างช่วยในการติดตั้งโปรแกรมของ Microsoft Office 2003 ให้เราป้อนรหัสสำหรับติดตั้งโปรแกรมในช่อง Product Key (เราจะพบรหัสนี้ได้ หลังกล่องใส่แผ่นซีดีติดตั้ง หรืออาจเป็นเอกสารที่มาในกล่อง Office 2003) และคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
2. ป้อนชื่อ และบริษัท และคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
3. ต่อไปเป็นข้อตกลงเกียวกับการใช้งาน Office 2003 ให้คลิกเลือก I accept the terms in the License Agreement เพื่อยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวจึงจะ ติดตั้งโปรแกรมต่อได้ จากนั้นให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
4. ในขั้นตอนนี้เราสามารถเลือกติดตั้ง Office 2003 แบบทั่วไป (Typical Install) หรือเลือกติดตั้งแบบสมบูรณ์ (Complete) หรือจะกำหนดรายละเอียด การติดตั้งด้วยตนเองก็ได้ (Custom) และคลิกเมาส์ที่ปุ่ม |
|
|
|
5. โปรแกรมจะเริ่มต้นทำการติดตั้งOffice 2003ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลาพอสมควรหลังจากการติดตั้ง Office 2003 เสร็จสิ้นให้คลิกเมาส์ปุ่ม |
|
หลังจากนั้นเราสามารถเข้าใช้งานโปรแกรมที่เพิ่งติดตั้งเสร็จนั้นได้ทันที ( บางโปรแกรมอาจต้องให้รีสตาร์ทเครื่องก่อน) จากเมนู All Programs ของ Windows หรือในบางโปรแกรมอาจสร้าง Shortcut ของโปรแกรมไว้บนหน้าจอเดสก์ท็อปเพื่อให้เราดับเบิ้ลคลิกเข้าใช้งานโปรแกรมได้ทันที |
การติดตั้งโปรแกรมใหม่นั้น แต่ละโปรแกรมไม่ได้มีขั้นตอนหรือหน้าต่างช่วยในการติดตั้งเหมือนกันทั้งหมดเราจำเป็นต้องอ่านรายละเอียดภายในหน้าต่างนั้น เพื่อให้การติดตั้งถูกต้อง และไม่เกิดปัญหาขึ้นกับระบบภายหลังด้วย |
|
|
|
|
ในบทนี้ทำให้เราเข้าใจถึงขั้นตอนการติดตั้งระบบปฏิบัติการ และโปรแกรมประยุกต์ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราต้องทราบความต้องการของระบบก่อนที่จะ ทำการติดตั้ง ทั้งในระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP และ Microsoft Windows Vista |